อาหารเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการดำรงชีพของทุกคน ปัจจุบันมีโรงงานผลิตอาหารจำนวนมากในประเทศไทย ที่ต้องผลิตอาหารต่อวันเป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องบรรจุภัณฑ์อาหาร อาทิ เครื่องห่อแนวนอน เครื่องซีลสูญญากาศ และ เครื่องรัดกล่อง เครื่องติดสติ๊กเกอร์ เครื่องอบฟิล์มหด เครื่องพันพาเลท ที่มีคุณภาพสูง วิธีการเลือกเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์อาหาร;  

1. ใช้งานง่าย

         เมื่อผู้ประกอบการต้องการใช้งานเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์อาหาร สิ่งที่จำเป็นที่สุดในการใช้งาน คือ การเรียนรู้วิธีใช้เครื่องอย่างถูกต้อง เครื่องบรรจุภัณฑ์อาหารส่วนใหญ่ต้องผ่านการฝึกฝนเป็นอย่างดี หากเครื่องจักรใช้งานยาก อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกฝนและทำความเข้าใจเป็นเวลานาน หากผู้ใช้งานเครื่องจักรไม่มีความเข้าใจในการใช้งานเครื่องจักรจะทำให้มีข้อผิดพลาดและปัญหาตามมามากมาย แต่ถ้าผู้ประกอบการเลือกเครื่องจักรที่มีการใช้งานง่าย นอกจากจะลดระยะเวลาในการฝึกฝน ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานจะช่วยลดข้อผิดพลาด ช่วยประหยัดเงินในระยะยาวอีกด้วย
     

2. ต้องทนทาน

         ความทนทานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์อาหารที่คุณควรลงทุน ผู้บริหารส่วนใหญ่คาดหวังว่าเครื่องจักรที่ลงทุนจะมีอายุการใช้งานนานหลายปี อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่ต้องมีคือ การบำรุงรักษาเครื่องบรรจุภัณฑ์ แม้ว่าเครื่องบรรจุภัณฑ์จะดูมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าจำเป็นต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่อยู่ตลอดเวลา ก็มีผลให้เครื่องบรรจุภัณฑ์มีประสิทธิภาพน้อยกว่าที่เห็นมาก โดยเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์ที่คุณลงทุนควรทำจากวัสดุที่ทนทานและ ทำความสะอาดง่าย ซึ่งจะช่วยให้พนักงานรักษาประสิทธิภาพได้สูงสุดตลอดอายุการใช้งานของเครื่องจักร    

3. รองรับระบบอัตโนมัติ

         ไม่ว่าคุณจะต้องการเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์อาหารประเภทใด กระบวนการบรรจุภัณฑ์ของคุณจะต้องทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเมื่อคุณบรรจุอาหารจำนวนมาก คุณต้องมีเครื่องจักรที่ช่วยให้งานของคุณมีประสิทธิภาพ ราคาไม่แพง และแม่นยำ อีกทั้งเครื่องบรรจุภัณฑ์ในท้องตลาดมีให้เลือกหลากหลายรูป เครื่องห่อแนวนอน แบบ เครื่องบรรจุภัณฑ์บางเครื่องสามารถตวงปริมาณผลิตภัณฑ์ได้ล่วงหน้า พนักงานสามารถทำงานได้ง่ายด้วยระบบอัตโนมัติเพียงกดปุ่มควบคุมเท่านั้น
     

4. เลือกใช้เครื่องบรรจุภัณฑ์ที่เป็นสแตนเลส

         โครงสร้างและชิ้นส่วนของเครื่องจักรทั้งหมดที่ทำด้วยสแตนเลสจะมีความทนทานและแข็งแรงมาก สแตนเลสยังมีประโยชน์ต่อเครื่องบรรจุภัณฑ์โดยไม่เป็นสนิมง่ายเหมือนโลหะอื่น ๆ ทนทานต่อการทำความสะอาดด้วยแรงดันสูง ของเหลว ฝุ่น ความชื้น และองค์ประกอบอื่น ๆ ที่มาจากความชื้น ด้วยเหตุผลข้างต้นทั้งหมด คุณควรเลือกซื้อเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของโครงสร้างและพื้นที่ผิวสัมผัสที่ทำมาจากสแตนเลสเพื่อลดปัญหาการใช้วานและการบำรุงรักษา  

5. เลือกเครื่องจักรที่ลดความซับซ้อนของชิ้นส่วน

         เครื่องบรรจุภัณฑ์อาหารจะสามารถใช้งานง่ายขึ้น และมีการบำรุงรักษาที่ง่ายขึ้น เมื่อผู้ประกอบการเลือกเครื่องจักรที่ชิ้นส่วนต่างๆ ไม่มีความซับซ้อน หรือมีความซับซ้อนให้น้อยที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ในขณะที่เราใช้งานเครื่องจักรอยู่นั้น จะไม่มีปัญหาเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับชิ้นส่วนเกิดขึ้น หรือในบางครั้งปัญหาของชิ้นส่วนเล็กน้อยนั้น อาจก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้    

6. เทียบราคากับต้นทุน

         การซื้อและติดตั้งระบบบรรจุภัณฑ์ในครั้งแรกอาจเป็นส่วนสำคัญของการลงทุนด้านสิ่งอำนวยความสะดวกโดย รวมของคุณ แต่ก็ไม่ใช่ต้นทุนเพียงอย่างเดียว เครื่องจักรที่ใช้งานยาก ต้องซ่อมแซมบ่อยครั้ง หรือไม่สามารถปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมการผลิตอาหารได้ จะทำให้คุณสูญเสียผลกำไรเมื่อเวลาผ่านไป คุณไม่ควรซื้อระบบบรรจุภัณฑ์ที่ถูกที่สุดที่สามารถทำงานได้ ให้พยายามมองว่าการซื้อเป็นการลงทุนระยะยาว และคาดการณ์ว่าการซื้อจะส่งผลต่อเป้าหมายธุรกิจของคุณอย่างไรทั้งปัจจุบันและในช่วงเวลาหลายปี คุณควรถามตัวเองด้วยคำถามต่อไปนี้ก่อนจะตัดสินใจซื้อเครื่องบรรจุภัณฑ์  

• เครื่องบรรจุภัณฑ์มีความทนทานหรือไม่ ?  
• เงื่อนไขและข้อกำหนดในการบำรุงรักษาคืออะไร ?  
• การสนับสนุนด้านเทคนิคพร้อมให้บริการมากน้อยเพียงใด และผู้เชี่ยวชาญด้านบริการได้รับการฝึกฝนอย่างเพียงพอเพื่อให้ระบบของคุณทำงานต่อไปได้หรือไม่ 
• มีอะไหล่พร้อมใช้หรือไม่ ? 
• อุปกรณ์มีการรับประกันหรือไม่ ? 
• เครื่องจักรหรือเทคโนโลยีจะล้าสมัยในไม่ช้านี้หรือไม่ ? 
• พิจารณาว่าสามารถอัพเกรดเครื่องจักรให้ตรงกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ 
• มีค่าใช้จ่ายเท่าใดในการฝึกอบรมพนักงาน 

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่   
https://www.goodtimepack.com
โทร : 0-2807-6461 ถึง 9 (Auto)
แฟกซ์ : 0-2807-6460
E-Mail : sales@goodtimepack.com
Line : @goodtimepack